จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เกร็ดความรู้แฮร์รี่พอตเตอร์

เกร็ดความรู้แฮร์รี่พอตเตอร์

      1. ทำไมวิญญาณเฟร็ดถึงไม่ได้มาปรากฏตัวในป่า ? คุณรู้อะไรไหม ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องเฟร็ดกลับมาเลยนะ ฉันวางแผนจะให้เหล่าตัวกวนและลิลี่กลับมามาตลอดตั้งแต่เล่มแรกจบ รุ่นก่อนมีพวกเขากันอยู่สี่คนและพวกเขาก็ถูกหักหลังโดยหนึ่งในพวกเขาเองก็ เลยเหลือแค่สาม ดังนั้นฉันจึงอยากให้แฮร์รี่ถูกรอบล้อมไปด้วยแม่ของเขา เจมส์ ซีเรียส และลูปิน ซึ่งทั้งหมดนั้นตายเพื่อเขา คุณก็รู้ ลูปินตายในสงคราม เขาไม่จำเป็นที่จะต้องกลับมาต่อสู้เลยด้วยซ้ำ เจมส์ตายเพราะพยายามที่จะปกป้องครอบครัว และซีเรียสก็เสียชีวิตเพราะต่อสู้เคียงข้างแฮร์รี่ และแม่ของเขาเองที่ตายเพื่อเขาโดยเฉพาะ ฉันก็เลยไม่เคยคิดถึงเรื่องการพาเฟร็ดกลับมา ที่กลับมาก็มีแต่รุ่นที่แล้วทั้งนั้นซึ่งทุกคนล้วนเป็นแต่พ่อแม่และผู้ปก ครองของแฮร์รี่ 2. แฮร์รี่ได้ตายหรือเปล่า ? โรว์ลิ่งเขียนคำตอบนี้อย่างระมัดระวัง เพราะคำถามนี้อาจหมายความว่า 'แฮร์รี่เพียงแค่ไม่มีสติแล้วจิตใต้สำนึกของเขาได้ให้คำตอบทุกๆอย่างแก่เขา รึเปล่า?' เพราะดัมเบิลดอร์ไม่ได้บอกอะไรแฮร์รี่ที่ตัวเขาเองจะไม่สามารถตอบได้ถ้าเขา คิดดูดีๆ' ในความคิดของเจเคโรว์ลิ่ง แฮร์รี่ไม่ได้ตายหากแต่เขานั้นได้เข้าไปในช่องแบ่งระหว่างการมีชีวิตและความ ตาย เขาเพียงต้องเลือกว่าเขาจะเลือกไปทางไหน โดยเธอได้อธิบายในเว็บไซต์ของเธอว่า การที่แฮร์รี่ไปพบเจอกับดัมเบิลดอร์ที่คิงส์ครอสนั้นใช้กฏของเวทมนต์ที่น่า สับสนมาก ซึ่งโวลเดอร์มอร์ทเองก็ไม่สามารถเข้าใจได้ "การที่โวลเดอมอร์ใช้เลือดของแฮร์รี่ในการกลับมานั้น ทำให้เกราะปกป้องที่ลิลี่ทิ้งไว้แฮร์รี่นั้นยังคงมีอานุภาพอยู่ หากแต่ว่าอำนาจของการเสียสละชีวิตของลิลี่นั้นส่งผลให้แฮร์รี่สามารถมี สัมผัสกับชีวิตได้ในยามที่เขาโดนโวลเดอร์มอร์ทฆ่าและอำน าจนั้นก็ให้โอกาสสุดท้ายกับโวลเดอร์มอร์ คือโวลเดอมอร์นำสิ่งดีๆจำนวนนึงเข้าไปในร่างกายของเขาโดยไม่รู้ตัว ถ้าเขาคิดจะกลับเนื้อกลับตัวล่ะก็เขาจะสามารถคืนดีได้เกินคาดเดาเสียอีก แต่แน่นอน เขาปฏิเสธที่จะสำนึกผิด "และเพราะว่าโวลเดอมอร์นั้นใช้ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ซึ่งความจริงแล้วเป็นของแฮร์รี่ ดังนั้นทั้งคำสาปกรีดแทงและคำสาปพิฆาตก็ไม่ได้เป็นผลสำเร็จ "แต่คำสาป อวาดา เคดาฟรา นั้นมีอำนาจมากพอที่จำทำให้แฮร์รี่เจ็บตัวได้ และก็ฆ่าส่วนหนึ่งของเขาที่ไม่ใช่เขาได้สำเร็จ ส่วนที่ว่าก็คือชิ้นส่วนของวิญญาณของโวลเดอมอร์นั่นเอง คำสาปก็ยังทำร้ายแฮร์รี่มากพอที่จะสามารถทำให้เขาสามารถตายได้ถ้าหากเขา เลือกที่จะตาย" 3. คำถามที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ 'ตัวประหลาดที่อยู่ในบทคิงส์ครอสคืออะไร' ? แรงดลใจของแฮร์รี่ก็คือการช่วยชีวิต แม้ว่าจะอยู่ในจุดที่ไร้สติสัมปะชัญญะก็ตามแต่ ธรรมชาติของเขาคือการช่วยเหลือคนอื่นแม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องก็ตามที 'ฉันจะต้องช่วยเขา ฉันจะต้องพยายามที่จะปกป้องทุกคน' นี่เป็นเพราะว่าแฮร์รี่จมอยู่กับเรื่องที่แม่ของเขาเสียสละเพื่อช่วยชีวิต เขาไว้ เขาก็เลยพยายามที่จะช่วยชีวิตผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ว่าการเผชิญหน้ากับโวลเดอร์มอร์ทครั้งนี้นั้นต่างจากคราวก่อน "เป็นครั้งแรกที่การพบเจอสัตว์ปะหลาดตัวนี้ที่ดูอ่อนแอ บอบบางและแปลกปะหลาด ทำให้แฮร์รี่รู้สึกขยะแขยงแม้ว่าเขาก็อยากช่วย แต่ก็ถูกต้องที่สุดแล้วที่เขารู้สึกอย่างนั้น เพราะนี่คือชิ้นส่วนวิญญานของโวลเดอมอร์ ฉันจำเป็นต้องอธิบายเพราะว่าหลายคนมากที่ถามฉัน" 4 .คำถามที่เธอกลัวก็โดนถามคือ 'ไม้กายสิทธิ์ของดัมเบิลดอร์ทำจากอะไร' ? "นั่นคงเป็นคำถามที่อธิบายอะไรได้เยอะเลย เพราะว่าฉันคิดเรื่องไม้เอลเดอร์ไว้นานแล้ว ในตำนานเอลเดอร์คือต้นไม้แห่งความตาย ฉันก็เลยคิดว่า 'ฉันจะตอบยังไงดี' มันจะใบ้อะไรได้เยอะเลย แต่อย่างว่า ไม่เคยมีใครถาม สรุปคือ เจเคยังไม่อยากตอบคำถามนี้นัก 5. ดัมเบิลดอร์เห็นอะไรในกระจกแห่งเอริเซด ? ครอบครัวของเขาที่มีชีวิตและอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา 6. พ่อมดแม่มดไปไหนกันก่อนที่พวกเขาจะเข้าโรงเรียน ? ส่วนมากถูกสอนอยู่ที่บ้าน เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถควบคุมอำนาจของตัวเองได้ดังนั้นมันจะอันตรายมากหาก ปล่อยพวกเขาออกไปเตร่ข้างนอก 7. แฮร์รี่กับโวลเดอร์มอร์เป็นญาติกันหรือเปล่า ? ใช่ค่ะ แต่ก็ญาติห่างๆ ติดต่อกันทางตระกูล Peverell แต่ส่วนมากแล้วครอบครัวพ่อมดก็เป็นญาติกันทั้งนั้นถ้าคุณย้อนกลับไปหลายๆรุ่น 8. เดรโก มัลฟอย แต่งงานกับใครกัน ? Astoria Greengrass น้องสาวคนสุดท้องในครอบครัวกรีนกราส เราพบแดฟนี่ กรีนกราส ที่เป็นเพื่อนอยู่ในกลุ่มแพนซี่ พาร์กินสัน ในเล่มห้าตอนที่เฮอร์ไมโอนี่ไปสอบ ว.พ.ร.ส. ส่วนเนวิลล์นั้นแต่งงานกับ แฮนนาห์ อับบอต ซึ่งกลายเป็นเจ้าของร้านหม้อใหญ่รั่ว "ฉันคิดเรื่องพวกนี้ไว้ในหัวหมดแล้ว ฉันช่วยไม่ได้จริงๆ" 9. ตัวละครหลักๆ ทำงานที่ไหนเมื่อโตกันแล้ว ? แฮร์รี่ กับ รอน ไปทำงานเป็นมือปราบมารที่กระทรวง ทั้งคู่ทำได้ดีทีเดียว รอนยังปลีกเวลาไปช่วยงานจอร์จที่ร้านเกมกลวิเศษด้วย ภายหลังแฮร์รี่ได้เลื่อนเป็นหัวหน้าสำนักงานมือปราบมาร เฮอร์ไมโอนี่กลับไปเรียนปี 7 ใหม่ร่วมกับจินนี่และลูน่า หลังเรียนจบเธอไปทำงานที่กระทรวงในสำนักงานออกระเบียบและควบคุมสัตว์วิเศษ เธอรณรงค์จนสามารถออกกฏหมายเพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่ของเอลฟ์ประจำบ้านให้ดีขึ้นได้ หลังจากนั้นเธอย้ายไปทำงานในสำนักงานบังคับใช้กฏหมายเวทมนต์ด้วยตำแหน่งที่สูงขึ้น ส่วนจินนี่ไปเป็นนักกีฬาควิชดิชอาชีพให้กับทีมควิชดิชหญิงล้วนโฮลี่เฮดฮาปี้และสามารถติดทีมชาติอังกฤษด้วย หลังจากเป็นนักควิชดิชอาชีพอยู่หลายปี ก็แขวนไม้กวาดแล้วไปทำงานเป็นนักข่าวอาวุโสสายควิชดิชให้กับเดลี่พรอเฟ็ต ลูน่า ทำงานเป็นนักธรรมชาติวิทยา เธอออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อค้นหาสัตว์และพืชแปลกๆหายาก เธอสามารถค้นพบและจัดลำดับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ๆหลายชนิด กลายเป็นนักธรรมชาติวิทยามีชื่อเสียง (แต่ไม่เคยพบสนอร์แค็ก) ภายหลังแต่งงานกับเพื่อนนักธรรมชาติวิทยา ราล์ฟ หลานชายของ นิวท์ สคาแมนเดอร์ (ผู้แต่ง สัตว์มหัศจรย์และถิ่นที่อยู่) ไม่ทราบว่าหลังเรียนจบ เนวิลล์ ทำงานอะไรหลังจบ รู้อีกทีก็ไปเป็นอาจารย์สอนวิชาสมุนไพรศาสตร์ที่ฮอกวอตส์ ก่อนนั้นเขาพักที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว และได้แต่งงานกับ แฮนน่า แอบบอทท์ เพื่อนร่วมชั้นปีจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟ ซึ่งได้เป็นเจ้าของร้านหม้อใหญ่รั่วคนใหม่ ไม่ทราบว่า เดรโก ทำงานอะไร เขาแต่งงานกับ แอสโตเรีย กรีนกราส น้องสาวของ แดฟนี่ (เพื่อนร่วมชั้นกลุ่มเดียวกับแพนซี่ พาร์กินสัน แดฟนี่มีชื่อปรากฏในหนังสือครั้งเดียวตอนสอบ ส.พ.ร.ส. ในเล่ม 5) ยังไม่มีข้อมูลของ โช แชง มากนัก ทราบเพียงว่าเธอแต่งงานกับมักเกิ้ลคนหนึ่ง 10. เท็ดดี้ ลูปิน เป็นมนุษย์หมาป่าหรือปล่า ? ไม่ค่ะ เขาเป็น เมตามอร์ฟเมกัส เหมือนแม่ (ซึ่งที่จริงแล้วเคยอยู่ในบ้านฮัฟเฟิลพัฟ) 11. 3 สหายมีเพียง เฮอร์ไมโอนี่ คนเดียวที่กลับไปเรียนซ้ำชั้นปี 7 ที่ฮอกวอตส์ใหม่อีกครั้ง เพื่อจะเอา ส.พ.บ.ส. (ที่จริงเธอไม่ต้องเรียนก็ได้เหมือน แฮร์รี่ กับ รอน แต่คนอย่างเธอ คงทนไม่ได้ที่ตัวเองไม่ได้จบฮอกวอตส์ โดยที่ไม่ได้ผ่านปี 7 เหมือนคนอื่นเขา) ดังนั้นเธอจึงกลับไปเรียนชั้นเดียวกันกับ จินนี่ และ ลูน่า - อัมบริดจ์โดนจับในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อพวกที่มีสายเลือดมักเกิ้ล ถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกคุมขังอยู่ในอัสคาบัน
    12. ลายมือ J.K.R. แผนผังตระกูลวีสลีย์ ตั้งแต่จบเล่ม 7 รวมถึง เดรโก และ ลูน่า เราจะพบ ชื่อของตัวละครที่เราไม่ได้พบในหนังสือ เช่น - ลูกของแฮร์รี่- เจมส์ มีชื่อกลาง ซิเรียส, ส่วน ลิลี่ มีชื่อกลาง ลูน่า (แฮร์รี่ซึ้งความเป็นเพื่อนของลูน่า) - เดรโก แต่งกับ แอสโตเรีย ลูกของเขา- สกอเปี้ยน (แปลว่าแมงป่อง พ้องกับชื่อพ่อซะกระไร) มีชื่อกลาง ไฮเปอร์เรียน - ลูน่า มีลูก 2 คน - บิล กับ เฟลอร์ มีลูก 3 คน - จอร์จ มีลูก 2 คน ชื่อ เฟร็ด (แน่นอนตั้งตามฝาแฝด), โรซาน - เพอร์ซี่ มีลูก 2 คน ชื่อ มอลลี่, ลูซี่ 13.อีกเรื่องสำคัญมาก ลืมไปได้ไงขออภัย คือว่า ตอนเจ๊เคให้สัมภาษณ์ มีแฟนนิยายคนหนึ่งถามว่า "ดัมเบิลดอร์เป็นเกย์หรือเปล่า?" เจ๊แกบอก "ใช่ค่ะ!" เฮ้ย อึ่งกันทั่วโลกครับ ประเด็นนี้มีบทความใน'เน็ตวิเคราะห์กันมาก่อน เป็นที่ระแคะระคายซุบซิบแล้ว เช่น ทำไมไม่เห็นกล่าวถึงความรักของเขาเลย ฯลฯ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ซีเรียส (อาจเพราะบางคนมองมักกอลนากัลไว้ในใจ ผมเดานะ อิๆ) แต่ทว่ากระทั่งเจ๊แกมายอมรับหน้าตาเฉยเอง หลังจากนั้นก็ บู้ม (เกิดเป็นโกโก้ครั้น เย้ยม่ายช่าย อิๆ) เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันระงม พอหนักเข้า เจ๊แกก็ทำนองว่า แหมมันสิทธิของฉันนะย๊ะ (สำเนียงนี้ผมตอกไข่นิดๆ อิๆ) 14. ถ้านำเอาหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุกเล่มที่ขายได้ มาวางเรียงต่อกัน จะสามาระวางรอบโลกได้ 1.6 รอบตามเส้นศูนย์สูตร 15. ถ้าเอาหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุกเล่มที่ขายได้มาวางเรียงต่อกันแบบพื้นที่ จะคลอบคลุมพื้นที่สนามฟุตบอลได้ถึง 1,200 สนาม หรือ สามารถคลอบคุลมประเทศ โนนาโค ได้ 4.4 ครั้ง 16. จำนวนหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุกเล่มที่ขายได้ มีจำนวนมากกว่าประชากรทั้งหมดของประเทศ สหรัฐอเมริกา หรือ มากกว่า 295 เล่มนั่นเอง 17. วันแรกที่ขายหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เจ้าชายเลือดผสม ที่ประเทศอังกฤษ สามารถขายได้เร็วถึง 23 เล่มต่อวินาที 18. ถ้าเอาหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุกเล่มที่วางขายได้ในวันแรก เฉพาะประเทศอังกฤษมาตั้งซ้อนกัน จะสูงกว่าเทือกเขา เอเวอเรสต์ 11 เท่า หรือ มากกว่า 97,289 เมตร หรือ 319187 ฟุต สูงจากระดับน้ำทะเล 19. ถ้านำหนังสือทุกเล่มของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่วางขายได้ มาเรียนต่อกันเป็นเส้นตรง และ เดินตามเส้นนั้น คนเราจะต้องใช้เวลาเดินกว่า 1.5 ปี หรือ ถ้าใช้รถแข่ง ฟอร์มูล่า 1 ( วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ) จะใช้เวลากว่า 7 วันเลยทีเดียว 20. ตั้งแต่ตีพิมพ์หนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่ม 1 ครั้งแรก หนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ขายได้ด้วยความเร็ว 90,000 เล่มต่อวัน จำนวนหนังสือที่ขายได้นี้ เท่ากับจำนวนของที่นั่งในสนามฟุตบอล เวมบลี ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และ ด้วยความเร็วนี้จะมีคนซื้อ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เพิ่มไปแล้วอีก 15 เล่มในระยะเวลาที่คุณอ่านข้อเท็จจริงนี้ 21. หนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุกเล่มที่ขายได้มีน้ำหนักเท่ากับช้างแอฟริกัน 25,000 ตัว , มังกรโคโมโด 2 ล้านตัว หรือ นกฮูกหิมะ 70 ล้านตัว 22. จำนวนหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุกเล่มที่ขายได้นี้ มีมากกว่าจำนวนหนังสือในห้องสมุดแห่งชาติ ของประเทศอังกฤษ ถึง 13 เท่า 23. ถ้าเอาคำทุกคำของหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุกเล่มที่ขายได้ จัดสรรให้ทุกคนในโลกนี้ แต่ละคนจะมี 8,000 คำประจำตัว 24. คนหนึ่งคนต้องใช้เวลา 2,600 ปี ในการอ่านหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เจ้าชายเลือดผสม ทุกเล่มที่ขายได้ในวันแรกที่วางตลาด เฉพาะในอังกฤษเท่านั้น ไม่รวมยอดขายทั่วโลก 25. การอ่านหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่มใหม่ หรือ Harry Potter and the Deathly Hallows สามารถเผาพลานพลังงานเทียบเท่ากับซ๊อกโกแลต 4 แท่ง 26. คำพูดของ เจสัน คอกครอฟท์ นักวาดภาพปกหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ภาคีนกฟีนิกส์ และ เจ้าชายเลือดผสม " ผมจำได้ว่าตอนที่มีคนมาขอให้ผมวาดภาพปกหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ภาคีนกฟีนิกส์ ตอนนั้น ผมกำลังยุ่งมากกับการวาดภาพหนังสือนิทานหลายเล่ม ผมปิดห้อง แล้วก็ทำงานโดยไม่รับโทรศัพท์อะไรทั้งนั้น ยูนิส แมคมัลแลน เอเยนต์ของผม ฝากข้อความด่วนในโทรศัพท์ของผมว่า มีคนจ้างผมวาดภาพปกหนังสือเล่มหนึ่ง และ ผมควรจะอยู่ทำสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ทั้งหมด เดี๋ยวนี้!! นั้นเพราะว่า + คุณต้องการงานนนี้แน่นอน + วงการหนังสือเยาวชนมีงานที่น่าสนใจมากมาย แต่เมื่อเอเยนต์ของคุณสั่งให้หยุดทำงานอื่นๆ เพื่อโทรหาเธอเดี๋ยวนี้ คุณคงจะพอรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร ตอนแรกผมรู้สึกตื่นเต้น และ ประมาณสามสิบวินาที ผมก็เริ่มรู้สึกตัวใหม่ " " ถึงแม้ผมจะรู้ว่าสำนักพิมพ์หลายแห่ง และ ผู้เขียน JK.Rownlig ชอบปกของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ภาคีนกฟีนิกส์ และ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เจ้าชายเลือดผสม มากก็ตาม ผมก็ไม่มั่นใจว่าจะได้วาดภาพปกของเล่มสุดท้ายหรือไม่? ผมเคยคิดว่าทาง สำนักพิมพ์อาจต้องการให้ปกเล่มสุดท้ายมีพลังเป็นพิเศษ โดยไม่ใช่ภาพวาดอะไรเลย แต่ใช้เพียงรูปสัญลักษณ์ แต่ท้ายที่สุด ผมก็รู้สึกดีใจ และ ภูมิใจมากที่ได้รับเลือกให้วาดภาพปกของหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่มสุดท้าย!" " ผมพูดได้เลยว่าการวาดภาพปกของหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นงานที่สนุกที่สุดตั้งแต่ผมเป็นนักวาดภาพประกอบมาเลย โอกาศดีๆที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ( ถึงจะเป็นส่วนเล็กๆก็ตาม ) ของโปรเจคที่มีคนชื่นชอบมากขนาดนี้ และ มีความสำคัญทางวัฒนธรรมอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มันไม่ได้มาง่ายๆ และ ผมรู้สึกซาบซึ้งใจกับโอกาศนี้มากครับ !"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น